
วัณโรคเป็นโรคติดเชื้อที่มีความร้ายแรงมากโรคหนึ่ง โดยพบว่าประชากรโลกถึงหนึ่งในสาม หรือประมาณ 1,900 ล้านรายติดเชื้อวัณโรค มีผู้ป่วยวัณโรคใหม่อุบัติขึ้น 7-8 ล้านราย และเสียชีวิตประมาณ 2-3 ล้านรายต่อปี สำหรับในประเทศไทยมีอัตราความชุกของวัณโรคประมาณ 130,000 ราย อุบัติการณ์ของผู้ป่วยวัณโรคประมาณ 93,000 และมีจำนวนผู้ป่วยเสียชีวิตปีละ 12,000 ราย วัณโรคยังคงเป็นสาเหตุการตายของประชากรมากกว่าโรคติดเชื้ออื่นๆ การรักษาวัณโรคจะใช้ยาปฏิชีวนะร่วมกันหลายชนิด เป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน โดยผู้ป่วยจะต้องรับประทานยาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยาที่ใช้ในการรักษาอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรงในระดับที่ผู้ป่วยสามารถทนได้จนถึงระดับรุนแรงที่คุกคามชีวิตผู้ป่วย เช่น การเกิดผื่นแพ้ การเกิดพิษต่อตับ หรือแม้กระทั่งการกดภูมิคุ้มกัน ส่งผลให้ความร่วมมือในการใช้ยาของผู้ป่วยลดลง เมื่อใช้ยาไม่สม่ำเสมอจะทำให้เชื้อเกิดการดื้อยาได้มากขึ้น จากสถานการณ์การรักษาวัณโรคในประเทศไทยพบว่า มีอัตราผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานรายใหม่คิดเป็นร้อยละ 1.65 อัตราผู้ป่วยวัณโรคดื้อยาหลายขนานที่เคยรักษามาก่อน ร้อยละ 34.54 และมีผลข้างเคียงจากยามาก ดังนั้นการคิดค้นยารักษาวัณโรคจึงมีความจำเป็นอย่างมาก
ขมิ้นชัน (Curcuma longa) เป็นพืชในวงศ์ Zingiberaceae ที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศไทยและทวีปเอเชีย และมีรายงานสรรพคุณที่ใช้ในทางการแพทย์พื้นบ้านมากมาย เช่น แก้ปวด ต้านอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็ง ต้านเชื้อรา, ไวรัส และแบคทีเรีย และป้องกันการเสื่อมของตับ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการศึกษาผลของขมิ้นชันในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในผู้ป่วยเอดส์ พบว่าสามารถช่วยเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันได้เป็นอย่างดี
ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สารสกัดมะหาดเพื่อให้ผิวขาว นอกจากจะต้องพิจารณาถึงความเข้มข้นของสารสกัดมะหาดในผลิตภัณฑ์แล้ว รูปแบบของผลิตภัณฑ์ ก็มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของสารสกัดมะหาดเช่นกัน และควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) และมีฉลากที่ถูกต้อง รวมไปถึงไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารปรอท ซึ่งอาจเกิดอันตรายร้ายแรงได้ค่ะ
|